เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
621 views
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019
เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus) เป็นเชื้อไวรัสที่ถูกเจอคราวแรกในปี 1960 แต่ว่ายังไม่เคยรู้มูลเหตุอย่างเห็นได้ชัดว่ามาจากที่ไหน แต่ว่าเป็นเชื้อไวรัสซึ่งสามารถติดเชื้อโรคได้ทั้งยังในมนุษย์รวมทั้งสัตว์ ตอนนี้มีการศึกษาและทำการค้นพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งสิ้น 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั้งโลกขณะนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อนเป็นสายพันธุ์ที่ 7 ก็เลยถูกเรียกว่าเป็น “เชื้อไวรัสวัวโรนาสายประเภทใหม่” แล้วก็ในคราวหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วัววิด-19” (COVID-19) นั่นเอง
โรค COVID-19เป็นโรคติดเชื้อจากเชื้อไวรัสประเภทหนึ่ง ซึ่งเจอการระบาดในตอนปี 2019 ที่เมืองอู่ฮั่น เมืองจีน โดยในขณะนั้นพวกเราจะรู้จักกันโรคนี้ในชื่อว่า เชื้อไวรัสอู่ฮั่น ก่อนที่จะคราวหลังจะกำหนดเชื้อก่อโรคได้ว่าเป็นเชื้อในเครือญาติวัวโรที่นาเชื้อไวรัส แม้กระนั้นเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดมาก่อน โดยเหตุนั้น ทางองค์การอนามัยโลก ก็เลยได้ตั้งชื่อโรคติดต่อประเภทนี้ใหม่อย่างเป็นทางการ โดยมีชื่อว่า COVID-19 เพื่อไม่ให้กำเนิดรอยความมัวหมองกับพื้นที่ที่เกิดการระบาดของโรคด้วยJoker Gaming
กรุ๊ปเสี่ยงติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสโคโรนาสายจำพวกใหม่ หรือวัววิด-19
เด็กตัวเล็กๆ (แต่ว่าบางทีอาจไม่เจออาการร้ายแรงเท่าคนแก่)
คนวัยแก่
ผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว อาทิเช่นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง
ผู้ที่ภูมิต้านทานเปลี่ยนไปจากปกติ หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกันโรคอยู่
ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมากมาย (คนอ้วนมากมาย)pg slot
คนที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดโรค ยกตัวอย่างเช่น จีน ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน ประเทศฮ่องกง มาเก๊า ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี ประเทศอิหร่าน อื่นๆอีกมากมาย
คนที่จำเป็นต้องดำเนินการ หรือรักษาคนป่วย ติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสวัวโรนาสายจำพวกใหม่ หรือวัววิด-19 อย่างใกล้ชิด
ผู้ทำอาชีพที่จะต้องพบปะสนทนาชาวต่างประเทศมากมาย ดังเช่น ผู้ขับแท็กซี่ ข้าราชการในโรงหมอ ลูกเรือสายการบินต่างๆฯลฯ
ถ้าหากมีลักษณะอาการวัววิด 19 ควรจะทำยังไง ?
ถ้าหากมีลักษณะอาการของโรคที่เกิดขึ้นตาม 5 ข้อดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ควรจะเจอหมอเพื่อกระทำการตรวจอย่างพิถีพิถัน รวมทั้งเมื่อหมอไต่ถามควรจะตอบตามจริง ไม่ปกปิด ไม่บิดเบือนข้อมูลใดๆก็ตามด้วยเหตุว่าจะมีคุณประโยชน์ต่อการวิเคราะห์โรคอย่างแม่นยำเยอะที่สุด
ถ้าหากพึ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรจะกักบริเวณเองอยู่แม้กระนั้นในบ้าน ไม่ออกไปด้านนอกตรงเวลา 14-27 วัน เพื่อผ่านตอนเชื้อฟักตัว (ให้มั่นใจจริงๆว่าไม่ติดเชื้อโรค)
แนวทางปกป้องการรับเชื้อเชื้อไวรัสวัวโรนาสายชนิดใหม่
หลบหลีกการสนิทสนมกับคนเจ็บที่มีลักษณะอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อย เจ็บคอ
เลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
ใส่หน้ากากอนามัยทุกหนเมื่ออยู่ในที่ส่วนรวมpg slot
รอบคอบการสัมผัสผิวที่ไม่สะอาด แล้วก็อาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมทั้งสิ่งที่มีคนจับบ่อย อาทิเช่น ด้ามจับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถยนต์ ร้อยกรองประตูต่างๆก๊อก ราวบันได อื่นๆอีกมากมาย เมื่อจับแล้วอย่าเอามือสัมผัสหน้า แล้วก็สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆยกตัวอย่างเช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ กระเป๋า อื่นๆอีกมากมาย
ล้างมือให้เป็นประจำด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลขั้นต่ำ 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ)
งดเว้นจับตา จมูก ปากเวลาที่มิได้ล้างมือ
เลี่ยงการสนิทสนม สัมผัสสัตว์ต่างๆโดยที่ไม่มีการคุ้มครอง
ทานอาหารสุก สะอาด ไม่กินอาหารที่ทำมาจากสัตว์หายาก
สำหรับพนักงานทางด้านการแพทย์หรือคนที่จะต้องดูแลคนเจ็บที่ติดเชื้อโรคเชื้อไวรัสวัวโรนาสายประเภทใหม่ หรือวัววิด-19 โดยตรง ควรจะใส่หน้ากากอนามัย หรือสวมแว่นตานิรภัย เพื่อปกป้องเชื้อในละอองฝอยจากเสลดหรือสารคัดเลือกหลั่งเข้าตา
วัวโรที่นาเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคฟุตบาทระบบหายใจ มีมานานกว่า 60 ปี แล้ว และก็จัดเป็นเชื้อไวรัสเครือญาติใหญ่ที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ โดยชื่อวัวโรนาก็มีที่มาจากรูปแบบของเชื้อไวรัสที่รูปร่างเหมือนมงกุฎ (Corona เป็นภาษาละตินที่มีความหมายว่ามงกุฎ) เพราะว่าเชื้อไวรัสจำพวกนี้มีสารพัดธุบาปเป็น RNA มีเปลือกข้างนอกที่ประกอบไปด้วยโปรตีนหุ้มด้วยกรุ๊ปคาร์โบไฮเดรต ไขมันเป็นปุ่มๆยื่นออกไปจากอนุภาคเชื้อไวรัส ชี้แจงกล้วยๆเป็นเป็นเชื้อไวรัสที่มีหนามอยู่รอบกาย ก็เลยสามารถเกาะตัวอยู่ในอวัยวะที่เป็นจุดหมายของเชื้อไวรัสได้
โคโรนาเชื้อไวรัสเป็นเชื้อที่ก่อโรคได้อีกทั้งในคนรวมทั้งสัตว์ เนื่องจากว่าตัวเชื้อไวรัสมีสารพัดธุบาป RNA ซึ่งได้โอกาสกลายพันธุ์สูง สามารถติดโรคผ่านสปีชีส์กันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มของสัตว์อย่างหนาแน่น เป็นต้นว่า ตลาดค้าสัตว์ ฯลฯ โดยเหตุนี้ตัวการการแพร่ระบาดของโรคก็บางครั้งอาจจะมาจากสัตว์ปีก อาทิเช่น นก ค้างคาว ไก่ หรือสัตว์เลือดอุ่น ดังเช่น ม้า โค แมว หมา กระต่าย หนู อูฐ รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานอย่างงู ฯลฯ
อันที่จริงแล้วพวกเราพบกับวัวโรทุ่งนาเชื้อไวรัสกันอยู่เนืองๆเนื่องจากว่าอย่างที่กล่าวว่าวัวโรท้องนาเชื้อไวรัสมีอยู่หลายสายพันธุ์ แต่ว่าจำนวนมากจะไม่ก่อเกิดโรคร้ายแรง เป็นเพียงแค่หวัดปกติ แต่ว่าก็มีวัวโรทุ่งนาเชื้อไวรัสบางสายพันธุ์ที่ก่ออาการร้ายแรงจนกระทั่งขั้นปอดอักเสบได้ ยกตัวอย่างเช่น โรคซาร์ส ที่มีเหตุมาจากวัวโรทุ่งนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ SARS-CoV ผ่านสปีชีส์จากค้างคาวมาสู่ตัวชะมด แล้วมาติดเชื้อโรคในคน รวมทั้งโรคเมอร์ส ที่เกิดจากวัวโรท้องนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ MERS-CoV ผ่านสปีชีส์จากค้างคาวสู่อูฐ รวมทั้งมาติดโรคในคน แล้วก็ปัจจุบันกับเชื้อวัวโรท้องนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ที่ก่อโรค COVID-19 ซึ่งเป็นวัวโรท้องนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่แกะกล่องslot
โดยโคโรนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า SARS-CoV-2 เป็นเชื้อไวรัสลำดับที่ 7 ในเครือญาติ coronaviruses lineage B จีนัส betacoronavirus ที่นำมาซึ่งโรคในคน
โคโรนาเชื้อไวรัสเป็นเชื้อที่ไม่อาจจะอยู่โดดเดี่ยวๆได้ แม้กระนั้นจะซ่อนตัวอยู่ในละอองฝอยจากการไอ จาม แล้วก็สารคัดเลือกหลั่งอย่างน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระ โดยเหตุนี้การกระจายเชื้อวัวโรทุ่งนาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ คนที่อยู่สนิทสนมก็จำต้องได้รับเชื้อผ่านการสูดดมละอองฝอยขนาดใหญ่รวมทั้งละอองฝอยขนาดเล็กกลางอากาศ รับเชื้อเข้าไปในทางเดินหายใจ หรือผู้ใดกันแน่ที่อยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1-2 เมตร ก็บางครั้งก็อาจจะติดโรคจากการดมฝอยละอองขนาดใหญ่ รวมทั้งฝอยละอองขนาดเล็กจากการไอ จาม รดกันโดยตรง หรือแม้อยู่ห่างจากผู้ติดเชื้อโรคในระยะ 2 เมตรขึ้นไป ก็บางทีอาจติดโรคจากการดมฝอยละอองขนาดเล็กได้เช่นเดียวกัน
เชื้อไวรัสโคโรนา
การที่เชื้อไวรัสจะก่อโรคภายในร่างกายพวกเราได้ พวกเราจะต้องได้รับเชื้อไวรัสดังที่กล่าวถึงมาแล้วผ่านเยื่อบุต่างๆจนกระทั่งส่งผลให้เกิดการได้รับเชื้อที่ระบบฟุตบาทหายใจส่วนบน ยกตัวอย่างเช่น เซลล์เยื่อบุหลอดลม ซึ่งเชื้อไวรัสจะใช้ผิวเซลล์ของเชื้อไวรัสจับกับโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่ผิวเซลล์มนุษย์ แล้วต่อจากนั้นเชื้อไวรัสจะเบาๆเพิ่มเชื้อในตัวเรา ซึ่งถ้าภูมิคุ้มกันของพวกเราไม่อาจจะจัดแจงกับเชื้อไวรัสนี้ได้ ปริมาณเชื้อไวรัสก็จะมากขึ้น รวมทั้งกระจัดกระจายไปยังเซลล์ข้างๆ ทำลายเซลล์ในหลอดลมและก็ปอด ทำให้ปอดอักเสบและก็เกิดภาวะทางเท้าหายใจล้มเหลวได้slot
จำเป็นต้องพูดว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคนี้ แล้วเชื้อจะลงปอดเสมอ โดยกรมควบคุมโรคเคยให้ข้อมูลไว้ว่า มีเพียงแต่ 15-20% ที่เชื้อลงปอดแล้วทำให้เป็นปอดอักเสบ แต่ว่าเมื่อลงปอดไปแล้วจะก่อความร้ายแรงขนาดไหน ขึ้นกับภูมิคุ้มกันร่างกายของแต่ละคน ในตอนที่ข้อมูลผู้ติดโรคในประเทศจีนพบว่า การลงปอดมักเกิดขึ้นในอาทิตย์ลำดับที่สองภายหลังจากได้รับเชื้อแล้ว แม้กระนั้นมีผู้ติดโรคโดยประมาณ 80% ที่เชื้อไม่ลงปอด เป็นเพียงแต่หวัดปกติ
ดังนี้ กรณีเชื้อไวรัสลงปอดจะเกิดขึ้นเมื่อเชื้อไวรัสไปสู่ร่างกายแล้วจะแบ่งตัวแล้วก็เจริญวัยในเซลล์มนุษย์ ดังเช่น เซลล์ของเยื่อบุหลอดลม ก็เลยจะก่อโรคได้ รวมทั้งเซลล์มนุษย์ที่ติดโรคจะเพิ่มแล้วก็ปลดปล่อยเชื้อไวรัสออกมานอกเซลล์ เพื่อไปก่อโรคในเซลล์ใกล้กัน เมื่อเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเรื่อยจะทำลายเซลล์มนุษย์ในหลอดลม ถุงลม และก็เนื้อปอด และเซลล์ข้างๆด้วย
ถ้าเกิดภูมิต้านทานของสุขภาพที่ไม่ดีเพียงพอ หรือสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาช้า เพราะเหตุว่าเม็ดเลือดขาวพึ่งเจอกับเชื้อไวรัสเป็นครั้งแรก ทำให้ภูมิคุ้มกันทำลายเชื้อไม่ทัน ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะปอดอักเสบ และก็เมื่อเซลล์ที่ติดโรคเยอะมากๆตาย จะถูกชดเชยด้วยพังผืดในเวลา 2-3 อาทิตย์ข้างหลังการเจ็บป่วยSlotxo
อย่างไรก็ดี มีข้อมูลว่า ผู้เจ็บป่วยที่มีลักษณะปอดอักเสบโดยมาก เนื้อปอดจะถูกทำลายไปราว 20% ซึ่งถ้าหากเนื้อปอดถูกทำลายไม่ถึง 50% ร่างกายฟื้นฟูเองได้ตามภาวะแต่ละคน แต่ว่าจะมีคนเจ็บราว 5% ที่เนื้อปอดถูกทำลาย 70-80% กรณีนี้จัดว่า วิกฤต ร่างกายบางทีอาจฟื้นไม่ไหว หรือหมอบางทีอาจจำเป็นต้องใช้เครื่อง ECMO หรือเครื่องหัวใจ-ปอดเทียมแบบโยกย้าย มาดำเนินงานแทนหัวใจแล้วก็ปอดของคนป่วย ซึ่งแม้ช่วยไม่ไหว ท้ายที่สุดแล้วระบบหายใจจะล้มเหลวและก็ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อโรควัวโรที่นาเชื้อไวรัสเสียชีวิต
อ่านเพิ่มเติม เชื้อไวรัสโคโรนา 19
อัพเดทล่าสุด : 22 กรกฎาคม 2021
